อัปเดต Windows และซอฟต์แวร์อื่น ๆ อย่างสม่ำเสมอจะช่วยปิดช่องโหว่ที่ผู้ไม่หวังดีอาจใช้ในการโจมตีและเป็นการใช้งานฟังก์ชันที่ผู้ให้บริการพัฒนาใหม่อยู่ตลอด
เมื่อท่านซื้อระบบปฏิบัติการ Windows ลิขสิทธิ์แท้ มาใช้งานนั้นย่อมต้องมีความคาดหวังได้รับประสบการณ์การใช้งานที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น แต่บางครั้งคุณอาจพบว่าปฏิบัติการยังโหลด หรือ ทำงานช้ากว่าปกติอยู่ แม้ว่าจะใช้ Windows แท้แล้วก็ตาม ในบทความนี้จะพาท่านไปสำรวจตรวจสอบหาสาเหตุที่อาจทำให้เครื่องและระบบปฏิบัติการของท่านช้าลง และวิธีการแก้ไขเบื้องต้นที่สามารถทำได้ เพื่อให้เครื่องของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สาเหตุที่จะทำให้เครื่องและWindows ของท่านช้า
ทรัพยากรฮาร์ดแวร์เวอร์ชันเก่า – สำหรับคอมพิวเตอร์ที่มีฮาร์ดแวร์ไม่ตรงตามเงื่อนไขขั้นต่ำของ Windows อาจทำให้ระบบปฏิบัติการทำงานอย่างไม่เต็มประสิทธิภาพได้
การติดตั้งโปรแกรมที่ไม่จำเป็น – หากในคอมพิวเตอร์เครื่องที่ลง Windows แท้ไว้มีโปรแกรมหรือข้อมูลจำนวนมากมีส่วนทำการการทำงานของระบบปฏิบัติการช้ากว่าปกติได้
การใช้งานโปรแกรมหรือบริการที่ทำงานอยู่เบื้องหลังมากเกินไป – การที่มีโปรแกรมทำงานอยู่เบื้องหลังโดยหลายโปรแกรมนั้นอาจไม่ได้เปิดเป็น Pop up ท่านจึงอาจไม่ทราบว่ามีโปรแกรมนั้นๆทำงานอยู่ด้วยซึ่งหากมีโปรแกรมประเภทนี้มากก็ส่งผลทำให้ระบบปฏิบัติการทำงานอยู่ตลอดเวลาและทำให้การทำงานส่วนอื่นล่าช้าได้
ปัญหาด้านฮาร์ดแวร์ – หากมีอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ตัวใดตัวหนึ่งมีปัญหาก็จะส่งผลกระทบต่อระบบปฏิบัติการ Windows ทำให้ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
มัลแวร์และไวรัส -เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นอาจติด มัลแวร์และไวรัส ไว้ซึ่งอาจส่งผลทำให้มีโปรแกรมเบื้องหลังทำงานอยู่ทำให้ระบบปฏิบัติการ Windows พบปัญหาการทำงานล่าช้าได้
ตารางสรปุสาเหตุและวิธีการแก้ไข (เบื้องต้น)
สาเหตุ
วิธีการแก้ไข
ทรัพยากรฮาร์ดแวร์เวอร์ชันเก่า
เปลี่ยนหรือ อัพเกรด RAM, SSD
การติดตั้งโปรแกรมที่ไม่จำเป็น
ลบโปรแกรมที่ไม่ได้ใช้
การใช้งานโปรแกรมหรือบริการที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง
ปิดการใช้งานโปรแกรมที่ไม่จำเป็น
ปัญหาด้านฮาร์ดแวร์
ตรวจสอบปัญหาจากอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ เช่น CPU , RAM, SSD
เครื่อง Mac ปัจจุบันหากคุณซื้อเครื่อง Macbook, iMac จะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ macOS มาพร้อมกับเครื่องโดยที่คุณไม่ต้องซื้อ OS มาลง และอาจจะต้องซื้อเพียง Microsoft Office 365 หรือใช้งาน Google Workspace เป็นต้นเพื่อใช้สำหรับการทำงาน ทำให้ประหยัดในส่วน OS ลงไปได้
Windows 11 เป็นระบบปฏิบัติการล่าสุดจาก Microsoft ที่ออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว มีความปลอดภัย และประสิทธิภาพสูงขึ้นกว่าเดิม หากท่านต้องการอัพเกรดจาก Windows 10 หรือเปลี่ยนจากที่ใช้งานอยู่มาใช้งาน Windows 11 นั้นท่านต้องทราบถึงข้อกำหนด และ สเปคขั้นต่ำที่จำเป็นสำหรับการติดตั้ง Windows 11 โดยมีรายละเอียดเบื้องต้นดังนี้
ความละเอียดHD (720p) , ขนาน 9 นิ้วขึ้นไป , การตั้งค่า bit ต่อช่องสี 8 bit
ตารางแสดงสเปคขั้นต่ำสำหรับ ติดตั้ง Window 11
สิ่งที่ต้องทราบเพิ่มเติมสำหรับการติดตั้ง Windows 11
กรณีท่านใช้งาน Windows 10 และต้องการอัพเกรดเป็น Windows 11 ตรวจสอบว่าคอมพิวเตอร์ของท่านผ่านเกณฑ์สเปคขั้นต่ำเหล่านี้ก่อนการอัพเกรด และ Windows 10 ที่ท่านใช้งานต้องเป็น Windows ลิขสิทธิ์แท้ และตรงกับตัวที่สามารถอัพเกรดเป็น Windows 11 ได้
ใช้โปรแกรมที่ชื่อว่า “PC Health Check” ซึ่งสามารถใช้ตรวจสอบความเข้ากันได้ของคอมพิวเตอร์ของท่านว่าจะสามารถใช้งานได้กับ Windows 11 หรือไม่
ติดตั้ง Windows 11 แบบลิขสิทธิ์แท้ที่ดาวน์โหลดมาจากระบบ Microsoft 365 admin center ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต้องการ และ Activate keys Windows 11 แบบ CSP
ข้อควรระวัง !
ถ้าเครื่องของท่านไม่ได้ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows ที่นำตัวติดตั้งมาจากระบบ Microsoft 365 admin center เช่น ถ้าเครื่องเดิมขอท่านติดตั้งเป็น Windows 11 Pro อยู่ จะไม่สามารถนำ License Windows 11 Pro แบบ CSP ไป Activate ได้ ท่านจะต้องติดตั้ง Windows ใหม่ โดยท่านสามารถนำตัวติดตั้งที่ดาวน์โหลดจากระบบ Microsoft 365 admin center ไปติดตั้ง แล้วจึงจะนำ License Windows 11 Pro แบบ CSP ไป Activate ได้ และถ้าเดิมเครื่องของท่านเป็น Windows 11 Home OEM มากับเครื่อง ท่านสามารถทำตามวิธีก่อนหน้าที่อธิบายไปได้เลย
ส่วนถ้าเครื่องเดิมของท่านเป็นระบบปฏิบัติการ Windows ที่ต่ำกว่า Windows 10 แนะนำให้ท่านติดตั้ง Windows 11 Pro ใหม่ได้เลย เนื่องจากระบบปฏิบัติการ Windows 8 ทาง Microsoft end of support ไปแล้ว
หากต้องการซื้อ License ต้องทำอย่างไร ?
ท่านสามารถติดต่อสอบถามกับทางเทคโนโลยีแลนด์ที่ช่องทางดังนี้ Line ID: @technologyland Call Center: 02-105-4104 Email: contact@technologyland.co.th ซึ่งจะมีตารางแสดงราคา Windows แจ้งอยู่
ข้อมูลโดยสรุป
สำหรับท่านที่กำลังต้องการที่จะติดตั้ง Windows 11 แบบลิขสิทธิ์แท้ สิ่งที่ต้องรู้ก่อนทำการติดตั้งคือ 1.เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต้องการลง Windows 11 นั้นเป็นเครื่องแบบใด 2.รูปแบบของ Licens ที่ท่านต้องใช้ โดยท่านสามรถทำตามวิธีการติดตั้งด้านบนได้เลย
Windows 10 และ Windows 11 เป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาโดย Microsoft ทั้งสองมีคุณลักษณะเฉพาะตัวที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้ในยุคสมัยต่าง ๆ บทความนี้จะกล่าวถึงความแตกต่างระหว่าง Windows 10 และ Windows 11 สำหรับผู้ใช้งาน Windows ลิขสิทธิ์แท้ ที่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่าโดยในบางข้อท่านอาจไม่ได้สักเกตุถึงความเปลี่ยนแปลงไปนี้เลย พร้อมตารางเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างที่ชัดเจนของทั้ง 2 แบบ
Windows 10 คืออะไร และเริ่มต้นใช้งานตั้งแต่เมื่อไหร่ ?
Windows 10 เป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาโดย Microsoft ซึ่งถูกออกแบบมาให้รองรับการทำงานได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์(PC) , แล็ปท็อป , แท็บเล็ต หรือแม้แต่อุปกรณ์สมาร์ทโฟนบางรุ่นที่ก็ยังใช้งานได้ Windows 10 เป็นการปรับปรุงมาจากประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้งาน Windows เวอร์ชันก่อน ๆ ให้มีความลื่นไหลมากขึ้นและตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งาน
Windows 10 ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2558 หรือ ค.ศ. 2015 โดย Microsoft ได้ให้ผู้ที่ใช้งานWindows 7 และ Windows 8.1 อัปเกรดฟรีในช่วงปีแรกของการเปิดตัว ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการ ทางผู้พัฒนาอย่าง Microsoft ได้มีการออกการอัปเดตใหญ่ของ Windows 10 อยู่อย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยปีละสองครั้ง โดยการอัปเดตเหล่านี้มีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ปรับปรุงประสิทธิภาพ และแก้ไขข้อผิดพลาดต่าง ๆ ที่ทางผู้ใช้งานพบอยู่เสมอ
Windows 11 คืออะไร และเริ่มต้นใช้งานตั้งแต่เมื่อไหร่ ?
Windows 11 เป็นระบบปฏิบัติการที่เป็นการพัฒนาขั้นต่อไปจาก Windows 10 ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานให้มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการออกแบบใหม่ให้สวยงามและใช้งานง่าย ดีไซน์และอินเทอร์เฟซใหม่ เพิ่ม Widgets แสดงข้อมูลต่าง ๆ เช่น ข่าวสาร สภาพอากาศ และปฏิทิน และ การรองรับแอปพลิเคชันจากฝั่ง Android ได้ด้วยในบางแอปพลิเคชัน
Windows 11 ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือน ตุลาคม พ.ศ. 2564 หรือ ค.ศ. 2021 โดย Microsoft ได้ให้ผู้ที่ใช้งาน Windows 10 อัปเกรดฟรีสำหรับผู้ใช้งานเวอร์ชั่นที่กำหนดและอุปกรณ์ที่ใช้งานตรงตามข้อกำหนดซึ่ง Windows 11 เป็นตัวที่ถูกพัฒนาขั้นต่อไปจาก Windows 10 ทำให้มีลูกเล่นและข้อแตกต่างด้านการใช้งานที่มากกว่า และเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี แต่สำหรับผู้ใช้งานที่ใช้ Windows 10 มาเป็นเวลานานนั้นส่วนมากแล้วจะไม่ชินกับอินเทอร์เฟซใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไป และในบางท่านถึงกับยอมไม่อัปเดต และยังใช้งาน Windows 10 อยู่จนถึงปัจจุบัน
สามารถรันแอปพลิเคชัน Android ผ่าน Microsoft Store โดยใช้ Amazon Appstore
User interface , background , Icon app
สามารถย้าย Icon app ได้ตามต้องการ User interface เป็นรูปแบบเหลี่ยม
ปรับ Icon app , background , User interface ให้โค้งมลมีความทันสมัยสวยงานและน่าใช้งานมากขึ้น
ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Windows 10 และ Windows 11
ข้อมูลโดยสรุป
จากข้อมูลที่ทางเราได้หามาข้างต้นนั้นผู้อ่านจะได้ทราบถึงข้อแตกต่างเล็กน้อยของ Windows 10 และ Windows 11 ซึ่งหากอ่านมาจนถึงข้อสรุปตรงนี้แล้วก็น่าจะได้คำตอบถึงความแตกต่างนั้นแล้ว จะอาจคิดว่า แนั้นมีความน่าใช้งานมากกว่าซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นแบบนั้นเนื่องจาก Windows 11 นั้นเป็นตัวอัปเกรดมาจาก feedbackของที่ผู้ใช้งาน Windows 10 เพื่อพัฒนาให้ดีขึ้นในทุกด้าน แต่สำหรับผู้ใช้งานที่ใช้ Windows 10 มาเป็นเวลานานนั้นส่วนมากแล้วจะไม่ชินกับอินเทอร์เฟซใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไป และ ในบางท่านถึงกับยอมไม่อัปเดตหรือเลือกซื้อ Windows 10 ใช้งานอยู่จนถึงปัจจุบัน